วิตามินอี มีประโยชน์อย่างไร
วิตามินอี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โทโคฟีรอล เป็นวิตามินละลายในไขมัน จะถูกเก็บสะสมไว้ในตับ เนื้อเยื่อ ไขมัน หัวใจ เลือก กล้ามเนื้อ มดลูก อัณฑะ ต่อหมวกไต และต่อมใต้สมอง นอกจากนี้วิตามินอียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ป้องกันการเกิดชิเดชันของสารในกลุ่มไขมันด้วย
หน้าที่และประโยชน์ของวิตามินอี
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ช่วยรักษาเยื่อหุ้มเซลล์
- ป้องกันการเป็นหมัน
- ช่วยบำรุงผิว ระบบประสาท กล้ามเนื้อ
- ทำให้การทำงานของเม็ดเลือดแดงเป็นปกติ
- ช่วยป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด
- ช่วยป้องกันการสลายตัวของลิ่มเลือด
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและอัมพฤกษ์ อัมพาต
- ลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ได้
แหล่งที่พบวิตามินอี
ซึ่งส่วนมากจะพบในน้ำมันพืชที่ไม่อิ่มตัวหลาย พวกผักใบเขียว เช่น บล็อคโคลี่ ผักโขม อะโวคาโอ(เฉพาะเนื้อ) ปวยเล้ง ธัญพืช ไข่แดง ตับ ถั่ว เมล็กพืช เเป็นต้น
โรคจากการขาดวิตามินอี
- เม็ดเลือดแดดงถูกทำลาย
- กล้ามเนื้อฝ่อ
- โรคโลหิตจาง
- เซลล์ประสาทเสียหาย
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ผู้ใหญ่ควรทาง 8-10 IU
คำแนะนำในการทานวิตามินอี
– ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ให้นมลูก หรือทานยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนเสริม ร่างกายซึ่งจะต้องการวิตามินเพิ่มมากกว่าปกติ
– ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทอง ควรทานวิตามินอีให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยหากมีอายุน้อยกว่า 40 ปีควรทาน 400 IU/วัน หรือหากมีอายุมากกว่า 40 ปีควรทาน 800 IU/วัน