ประโยชน์ของมัทฉะ มีดีมากกว่าความอร่อย
มัทฉะ เป็นชาเขียวที่ปลูกในร่มเงาเพื่อลดแสงแดด ทำให้มีคลอโรฟิลล์และกรดอะมิโนมากกว่าชาเขียวทั่วไป หลังเก็บเกี่ยว ใบชาจะถูกบดเป็นผงละเอียด ซึ่งอุดมไปด้วย คาเฟอีน และ สารต้านอนุมูลอิสระ มากมาย มัทฉะมีประโยชน์หลายด้านที่มากกว่ารสชาติที่อร่อย โดยมีดังต่อนี้ไป

อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
มัทฉะอุดมไปด้วย คาเทชิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำลายโมเลกุลอิสระที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ แม้จะปลูกในที่ร่มและมีคาเทชินน้อยกว่าชาเขียวทั่วไป แต่เมื่อชงในน้ำ ปริมาณคาเทชินจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า งานวิจัยพบว่า การเสริมมัทฉะในอาหารช่วยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระและเสริมประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระ การดื่มมัทฉะสามารถช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังหลายชนิด
ปกป้องตับ
ตับมีบทบาทสำคัญในการขับล้างสารพิษและเผาผลาญสารอาหาร การดื่มมัทฉะอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพตับ โดยงานวิจัยในปี 2015 พบว่า การดื่มชาเขียวเชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคตับที่ลดลง แต่ในปี 2020 ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มัทฉะอาจลดเอนไซม์ตับในผู้ป่วย NAFLD แต่กลับเพิ่มเอนไซม์ตับในผู้ที่ไม่มีโรคนี้ จึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อศึกษาผลกระทบของมัทฉะในประชากรทั่วไป
เสริมสร้างสมอง
สารประกอบในมัทฉะอาจช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง งานวิจัยกับผู้เข้าร่วม 23 คน พบว่าผู้ที่ทานมัทฉะมีสมาธิ เวลาตอบสนอง และความจำดีกว่ากลุ่มควบคุม นอกจากนี้ การทานผงชาเขียว 2 กรัมทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน ยังช่วยพัฒนาการทำงานของสมองในผู้สูงอายุอีกด้วย
อาจช่วยป้องกันมะเร็ง
แม้ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม แต่มัทฉะอาจช่วยป้องกันมะเร็งได้จากสารเอพิคาเทชิน-3-กัลเลท (EGCG) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็งอย่างชัดเจน นอกจากนี้ มัทฉะยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านสารต้านอนุมูลอิสระ การทำงานของสมอง และสุขภาพหัวใจ จึงเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจและปลอดภัยในการดื่ม
สุขภาพหัวใจ
แม้ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติม แต่มีสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับประโยชน์ของมัทฉะต่อสุขภาพหัวใจ งานวิจัยระบุว่า การดื่มชาเขียว ซึ่งมีสารอาหารใกล้เคียงกับมัทฉะ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยการดื่มชาเขียวอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อเทียบกับกาแฟ อีกทั้งยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่ชี้ว่า ชาเขียวอาจช่วยลดความดันโลหิตสูงและอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ในผู้ป่วยโรคหัวใจ
หุ่นสวยด้วยมัทฉะ
เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มักจะอยู่ในสูตรลดน้ำหนัก ชาเขียวถือเป็นตัวเลือกยอดนิยม และด้วยความนิยมของมัทฉะ หลายคนอาจสงสัยว่าเจ้าชาเขียวเข้มข้นนี้ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม งานวิจัยปี 2020 พบว่า การดื่มชาเขียวควบคู่กับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายสามารถช่วยลดดัชนีมวลกาย (BMI) ได้ภายใน 12 สัปดาห์ โดยปริมาณชาเขียวที่แนะนำคือไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อวัน
แหล่งที่มา : www.sanook.com