7 วิธีทานคอลลาเจนผงให้เห็นผล

7 วิธีทานคอลลาเจนผงให้เห็นผล

คอลลาเจนผงเป็นอาหารเสริมยอดนิยมที่ร่างกายดูดซึมได้เร็ว ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอวัย และเสริมสารน้ำในข้อต่อเพื่อลดอาการปวดเข่า นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเสื่อมของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย แต่หลายคนอาจสงสัยว่าควรกินคอลลาเจนแบบผงยังไงให้ได้ผลดีที่สุด มาดูวิธีทานให้ได้ผลกัน

เลือกคอลลาเจนชนิดที่ร่างกายดูดซึมได้ดี

คอลลาเจนผงมีหลายชนิดในท้องตลาด เช่น คอลลาเจนเปปไทด์ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ และคอลลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งคอลลาเจนไดเปปไทด์มีอนุภาคเล็กกว่าชนิดอื่น ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตาม คอลลาเจนไดเปปไทด์มักมีราคาสูงกว่าตัวอื่น ๆ

เลือกประเภทคอลลาเจนให้ตรงกับความต้องการ

หากต้องการให้คอลลาเจนช่วยดูแลเรื่องเฉพาะ ควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น:

  • ดูแลผิวพรรณ: คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเสริม เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือเซราไมด์
  • ดูแลข้อเข่าและกระดูก: คอลลาเจนชนิดที่ 2 ซึ่งพบมากในกระดูกอ่อน ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและชะลอการเสื่อมของข้อเข่า

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดูดซึมคอลลาเจนต้องอาศัยน้ำเปล่าเป็นตัวช่วยในการละลาย ดังนั้น หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ การดูดซึมคอลลาเจนจะไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถรับประโยชน์จากคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยเสริมการดูดซึมและเพิ่มประสิทธิภาพของคอลลาเจน

กินคอลลาเจนพร้อมวิตามินซี

วิตามินซีช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจนและช่วยให้คอลลาเจนถูกดูดซึมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของคอลลาเจนโดยการป้องกันอนุมูลอิสระที่อาจทำลายคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนอยู่ได้นานขึ้น ดังนั้น ควรกินคอลลาเจนพร้อมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้ ผักใบเขียว หรือเลือกคอลลาเจนที่ผสมวิตามินซีในตัวเพื่อเพิ่มประโยชน์

กินคอลลาเจนตอนท้องว่าง

เพื่อการดูดซึมคอลลาเจนที่ดีที่สุด ควรกินคอลลาเจนตอนท้องว่าง เช่น ช่วงเช้าหลังตื่นนอนหรือก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที เพื่อป้องกันกรดในกระเพาะทำลายคอลลาเจนก่อนที่มันจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย การรับประทานในช่วงนี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้เต็มที่

ผสมคอลลาเจนในอาหารและเครื่องดื่ม

ข้อดีของคอลลาเจนแบบผงคือสามารถนำไปผสมในอาหารหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการได้ โดยสามารถผสมคอลลาเจนลงในน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง หรือแม้กระทั่งน้ำผักชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถโรยคอลลาเจนเป็นท็อปปิ้งในสลัดผัก หรือผสมกับโยเกิร์ตไขมันต่ำเพื่อเสริมประโยชน์และความสะดวกในการรับประทาน

มีความต่อเนื่องในการรับประทานคอลลาเจน

จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่า การรับประทานคอลลาเจนต่อเนื่อง 3 เดือนในปริมาณ 5 กรัม ช่วยลดการอักเสบและอาการเจ็บปวดจากการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมได้ ส่วนการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า เมื่อให้อาสาสมัครเพศหญิงอายุ 35-55 ปี รับประทานคอลลาเจนแบบเครื่องดื่มวันละ 10 กรัม เป็นเวลา 3 เดือน พบว่าอาสาสมัครมีความยืดหยุ่นของผิวหนังดีขึ้น ริ้วรอยลดลง แผลเป็นดูจางลง และผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น

แหล่งที่มา : health.kapook.com